ท่านอนที่ถูกต้อง ลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่
ชาวไมเกรนเคยเป็นกันไหม?
ตื่นมามีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ บางครั้งมีร้าวขึ้นหัวด้วย
.
ชาวไมเกรนหลายคนที่มีอาการปวดต้นคอ และปวดร้าวขึ้นหัว
พบมากถึง 70% และยังเป็นอีก 1 สาเหตุที่ทำให้การนอนของชาวไมเกรนหลายๆคน มีปัญหาและไม่มีประสิทธิภาพ
.
ชาวไมเกรนหลายๆ คน อาจจะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว อาการดังกล่าวอาจจะเกิดมาจากท่านอนที่ไม่เหมาะสมของคุณก็เป็นได้
.
เพียงแค่ปรับเปลี่ยนท่านอนที่ให้รองรับกับสรีระของร่างกายของเราเอง ก็จะสามารถช่วยทำให้อาการปวดดังกล่าวหายเป็นปลิดทิ้งได้นะ
.
เดอะเบส ท่านอนที่ดีต่อต้นคอของชาวไมเกรน เป็นแบบไหนกันนะ?
ทีมสไมล์ ไมเกรน จะพาไปติดตามกัน
.
จากการศึกษาแล้วพบว่า ท่านอนหงาย หรือนอนตะแคง เป็นท่าทางการนอนที่ดีที่สุด สำหรับลดอาการปวดต้นคอ เนื่องจากท่าดังกล่าว จะช่วยให้กระดูกสันหลังส่วนคอของชาวไมเกรนถูกกดทับน้อยที่สุด และลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อคอ
.
โดยเวลาที่นอนหงาย ควรให้หมอนที่มีส่วนรองรับคอสูง และพยุงหลังไว้
แต่หากเวลานอนตะแคง ควรให้หมอนโอบรับกับต้นคอและศีรษะ เพื่อให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรงตลอดทั้งคืนนั่นเอง
.
มีท่าเดอะเบสแล้ว เราจะมาเรียนรู้กันเพิ่มเติมว่า ท่าไหนกันที่เป็นท่าที่ไม่ดีต่อการนอนของเรากัน นั่นก็คือ
ท่านอนคว่ำ ซึ่งท่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราอาจตื่นมาพร้อมกับอาการปวดคอ ปวดหัวแล้ว
ยังอาจแย่ไปถึง ทำให้เกิดคอเคล็ดปวดไปอีกหลายวันก็เป็นได้
.
ดังนั้นลองปรับเปลี่ยนท่านอนให้เหมาะสมกับสรีระของเรา แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตดีขึ้นเยอะเลยหล่ะ
.
นอกจากการปรับท่าทางการนอนแล้ว การปรับหมอนก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกัน เนื่องจากบางครั้งที่เราใช้หมอนไม่เหมาะสมกับเรา ก็สามารถเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนได้
.
มีงานวิจัยหนึ่ง ที่เขาได้ทำการศึกษากับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 106 คน โดยใช้หมอน 5 แบบ ในการทดลองนอนกับหมอนแต่ละแบบเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ เพื่ออธิบายว่า หมอนที่กลุ่มตัวอย่างใช้หนุนนอนเป็นประจำนั้นมีผลต่อคุณภาพการนอนของพวกเขามากน้อยขนาดไหน เช่น มีอาการปวดตึง ปวดสะบัก ปวดหัว สะดุ้งตื่นในระหว่างคืน อาการเหล่านี้จะถูกรายงานเมื่อพบว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นมาจากหมอนเท่านั้น
.
ซึ่งจากผลการศึกษา พบว่า 42.5% ของกลุ่มตัวอย่างไม่มีปัญหาการตื่นนอนระหว่างคืน แต่อีกกว่า 50% มีรายงานว่ามีปัญหากับคุณภาพการนอนของพวกเขา โดยมักจะมีอาการสะดุ้งตื่นระหว่างคืน ใช้หมอนที่ไม่สะดวกสบาย อันส่งผลต่อการนอนหลับที่คุณภาพต่ำ นอกจากนี้ในกลุ่มที่มีปัญหาการนอนนี้ยังรายงานเพิ่มเติมว่า หมอนที่ไม่สะดวกสบายนี้ส่งผลต่อคุณภาพการนอนของพวกเขาอย่างมีนัยสำคัญ
.
เราจะมาดูกันว่าสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้หมอนเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนได้ มีอะไรกันบ้าง
# หมอนไม่สามารถรับส่วนเว้า โค้ง บริเวณคอได้อย่างเหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอบ่า ทำงานหนักมากขึ้น จนเกิดอาการปวดตามมา
# หมอนระบายความร้อนไม่ดี จนเกิดความร้อนสะสม
.
โดยทีมสไมล์ ไมเกรน ได้รวบรวมทริคการเลือกหมอนง่ายๆ มาฝากกัน ดังนี้
> เลือกความสูงให้เหมาะสมกับสรีระคอ นั่นก็คือ 4-6 นิ้ว
> หมอนที่สามารถระบายความร้อนได้ดี
> เลือกให้ส่วนโค้งของหมอนรองรับกับกระดูกสันหลังส่วนคอ
.
นอกจากนั้น สิ่งสำคัญต้องดูว่าเราชอบนอนหงาย ตะแคง หรือคว่ำมากกว่ากัน
นอนหงาย : หมอนจะต้องนิ่มและไม่สูง มีการรองรับส่วนเว้าของกระดูกคอ
นอนตะแคง : หมอนสูง ช่วยเติมช่องว่างระหว่างศีรษะกับหมอน
นอนคว่ำ : หมอนค่อนข้างแบน เพื่อให้ศีรษะและกระดูกส่วนคอ อยู่ระนาบเดียวกัน
.
หมอนที่ดีต้องช่วยลดไมเกรนได้ ลดอาการปวดคอบ่าไหล่ได้ อย่างหมอนสุขภาพ Millow น๊า
.
ตัวหมอนทำมาจาก Memory Foam จะเป็นหมอนที่เหมาะสมที่สุด เพราะรูปทรงของหมอนที่เข้ารูปกับลักษณะคอ เมื่อมีแรงกกดทับตัว Memory Foam จะค่อยๆ คืนตัวกลับเป็นรูปร่างเดิม และช่วยกระจายน้ำหนัก ทำให้ลดแรงกดทับเวลานอน สิ่งนี้จะช่วยให้รองรับสรีระการนอน ช่วยลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลังได้ดีเยี่ยม
.
และข้อแตกต่างของหมอนทั่วไปเปรียบเทียบกับ Memory Foam คือ หมอนทั่วไปเส้นใยจะยุบตัวได้ง่าย ความสูงของหมอนอาจไม่เหมาะกับสรีระร่างกาย เมื่อนอนแล้วไม่รองรับต้นคอ เพราะหมอนรูปทรงนี้จะยุบตัวทำมุมเอียงขึ้น ตำแหน่งของคอ บ่า ไหล่ จะอยู่ต่ำที่สุด ทำให้กระดูกต้นคอและสันหลังงอ
.
นอกจากนี้หมอนยังมี Cool Gel ช่วยเพิ่มความเย็น ประคบลดปวด กล้ามเนื้อที่เกร็งตัวคลายลง รู้สึกผ่อนคลายและหลับได้นานขึ้นนั่นเอง
แหล่งที่มา :
https://www.smilemigraine.com/products/millow-pillow-for-migraine
https://www.sleepfoundation.org/sleeping-positions/best-sleeping-position-for-neck-pain
https://www.health.harvard.edu/pain/say-good-night-to-neck-pain