Gepants: ยาใหม่รักษาไมเกรนที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ไทย

Gepants: ยาใหม่รักษาไมเกรนที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ไทย

Gepants: ยาใหม่รักษาไมเกรนที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ไทย

 

ไมเกรนเป็นโรคที่รบกวนชีวิตประจำวันของคนไข้มากที่สุดในกลุ่มโรคทางระบบประสาท ผู้ป่วยหลายคนต้องทนกับอาการปวดศีรษะที่กลับมาซ้ำ ๆ จนกระทบต่อการทำงาน การเรียน และสุขภาพจิต

แม้ว่าจะมียารักษาไมเกรนหลายประเภทแล้ว ไม่ว่าจะเป็น triptans, NSAIDs หรือยาป้องกันอย่าง beta-blockers แต่ก็ยังมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ยังรักษาไม่หาย หรือทนผลข้างเคียงไม่ได้

ล่าสุดในปี 2025 แพทย์เฉพาะทางด้านไมเกรนในประเทศไทยได้มาร่วมกันหาข้อสรุปเรื่องการใช้ยากลุ่มใหม่ที่เรียกว่า "gepants" ซึ่งทำงานแตกต่างจากยาเดิม และอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ป่วยหลายกลุ่ม

 

 

 

 

 

 

Gepants คืออะไร?

ยา gepants เป็นยาที่มีกลไกการทำงานใหม่ ไม่เหมือนยารักษาไมเกรนที่เคยใช้มา แทนที่จะเน้นแก้อาการปวดเฉย ๆ gepants จะไปยับยั้งสาเหตุของไมเกรนตั้งแต่ต้นทาง

ยากลุ่มนี้ทำงานโดยการยับยั้งตัวรับของสาร CGRP (Calcitonin Gene-Related Peptide) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดในสมองและการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการไมเกรน

สิ่งที่น่าสนใจคือ gepants ไม่ทำให้หลอดเลือดหดตัว จึงปลอดภัยกว่าสำหรับคนที่มีโรคหัวใจ เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง

ยา gepants ที่มีในปัจจุบัน ได้แก่:

  • Ubrogepant – ใช้รักษาตอนมีอาการ
  • Rimegepant – ใช้ได้ทั้งรักษาและป้องกัน
  • Atogepant – ใช้ป้องกันไมเกรน
  • Zavegepant – ชนิดพ่นจมูก

 

 

19.06.25- Single Ads - SEO.png

 

 

แพทย์ไทยเห็นด้วยกับ Gepants

ในปี 2025 คณะแพทย์เฉพาะทางด้านไมเกรนจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ร่วมกันศึกษาและประเมินประสิทธิภาพของ gepants ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า "Delphi consensus"

การศึกษานี้ครอบคลุมคำถาม 30 ข้อ แบ่งเป็น 4 หมวดใหญ่:

  1. หลักการทั่วไป - การเลือกผู้ป่วยที่เหมาะสม
  2. การรักษาเฉียบพลัน - วิธีใช้เมื่อมีอาการ
  3. การป้องกัน - การใช้ระยะยาว
  4. ผู้ป่วยกลุ่มพิเศษ - การใช้ในคนที่มีโรคร่วม

ผลการศึกษาพบว่า แพทย์กว่า 75% เห็นพ้องกันในทุกประเด็น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า gepants เป็นยาที่น่าเชื่อถือและมีศักยภาพสูง

 

 

ใช้ Gepants รักษาไมเกรนเฉียบพลันอย่างไร?

เมื่อเริ่มมีอาการไมเกรน การใช้ gepants จะช่วยได้ดีกว่ายาเดิมในหลายกรณี โดยเฉพาะผู้ที่:

  • เคยใช้ triptans แล้วไม่ได้ผล
  • มีโรคหัวใจหรือความดันสูง จึงใช้ triptans ไม่ได้
  • ต้องการยาที่ออกฤทธิ์เร็วแต่ผลข้างเคียงน้อย

ข้อดีของ gepants ในการรักษาเฉียบพลัน:

  • ลดอาการปวดได้เร็ว
  • ไม่ทำให้คลื่นไส้หรือใจสั่น
  • ปลอดภัยกับผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ไม่ก่อให้เกิดอาการปวดหัวแบบ rebound

 

 

ใช้ป้องกันไมเกรนได้ด้วย

นอกจากรักษาเฉียบพลันแล้ว gepants ยังใช้ป้องกันไมเกรนได้ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่:

  • มีไมเกรน 4 วันขึ้นไปต่อเดือน
  • มีไมเกรนเรื้อรัง (15 วันขึ้นไปต่อเดือน)
  • เคยใช้ยาป้องกันอื่นแล้วไม่ได้ผลหรือทนไม่ได้

วิธีใช้ป้องกัน:

  • Atogepant: กินทุกวัน
  • Rimegepant: กินวันเว้นวัน
  • ควรใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 3-6 เดือน

ข้อดีเทียบกับยาป้องกันเดิม:

  • ไม่ทำให้ง่วงหรือซึมเศร้า
  • ไม่กระทบความดันโลหิต
  • ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม
  • ไม่มีผลต่อการทำงานของสมอง

 

 

ใครใช้ Gepants ได้บ้าง?

ข้อดีอีกอย่างของ gepants คือใช้ได้กับผู้ป่วยหลายกลุ่มที่ไม่สามารถใช้ยาไมเกรนเดิมได้

 

ผู้ป่วยกลุ่มใช้ได้ไหมหมายเหตุ
โรคหัวใจ✅ ใช้ได้ไม่ทำให้หลอดเลือดหดตัว
ความดันสูง✅ ใช้ได้ไม่เพิ่มความดัน
เบาหวาน✅ ใช้ได้ไม่กระทบน้ำตาล
ตั้งครรภ์❌ ไม่แนะนำยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัย
ไตเสื่อม⚠️ ระวังอาจเกิดการสะสมยา
ปวดหัวจากยาเก่า✅ ใช้ได้ไม่ทำให้เกิด rebound headache

HTML Table

 

 

เปรียบเทียบ Gepants กับยาเดิม

เรื่องGepantsยาเดิม
ปลอดภัยในโรคหัวใจ✅ ปลอดภัย❌ อาจเสี่ยง
ใช้ป้องกันได้✅ ได้❌ ส่วนใหญ่ไม่ได้
ผลข้างเคียงน้อยปานกลาง–มาก
ความเสี่ยงติดยาต่ำปานกลาง
ราคาแพงถูกกว่า

 

 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ Gepants

ข้อดี:

  • ออกฤทธิ์ตรงจุด ยับยั้งสาเหตุของไมเกรน
  • ใช้ได้กับผู้ป่วยที่มีโรคร่วม
  • ผลข้างเคียงน้อย
  • ไม่ก่อให้เกิดการติดยา
  • ใช้ได้ทั้งรักษาและป้องกัน

ข้อจำกัด:

  • ราคาแพงกว่ายาเดิม
  • ยังไม่มีในระบบประกันสังคม
  • ยังไม่มีข้อมูลผลข้างเคียงระยะยาว
  • ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์
  •  

migraine

สรุป

Gepants เป็นยาไมเกรนยุคใหม่ที่มีข้อได้เปรียบหลายประการเมื่อเทียบกับยาเดิม ด้วยกลไกการทำงานที่เจาะจงและความปลอดภัยที่สูงกว่า ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ป่วยไมเกรนหลายกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินความเหมาะสมกับอาการและสภาพร่างกายของแต่ละคน

หากคุณกำลังมีปัญหาไมเกรนที่ควบคุมยาก ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาทเพื่อหาทางรักษาที่เหมาะสมที่สุด

กลับไปยังบล็อก

บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ